30 เมษายน 2556

วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร วัดเก่าแก่ของจังหวัดเชียงใหม่



วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร วัดเก่าแก่ของจังหวัดเชียงใหม่

วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ที่เที่ยวเชียงใหม่เป็นวัดเก่าแก่ในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์ ลำดับ ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย ไม่ปรากฏปีที่สร้างแน่ชัด สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้น่าจะสร้างในปี พ.ศ. 1928-พ.ศ. 1945 วัดเจดีย์หลวงเป็นพระอารามหลวงแบบโบราณ มีการบูรณะมาหลายสมัย โดยเฉพาะพระเจดีย์ ที่ปัจจุบันมี ขนาด ความกว้างด้านละ 60 เมตร เป็นองค์พระเจดีย์ที่มีความสำคัญที่สุดองค์หนึ่งในเชียงใหม่ วัดเจดีย์หลวงสร้าง อยู่กลางใจ เมืองเชียงใหม่ ซึ่งแต่เดิมถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการปกครองของอาณาจักรล้านนา ปัจจุบันบริเวณ วัดเจดีย์หลวงกลางเมืองเชียงใหม่ มีสิ่งสักกาละหลากหลายได้แก่ เจดีย์หลวง อินทขีล ต้นยาง กุมภัณฑ์ พระฤๅษี ซึ่งสะท้อนพัฒนาการคติจักรวาลได้ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่แวดล้อมของเมืองชีวิต

วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่
1.วิหารหลวง
วิหารหลวงของวัดนี้เจ้าคุณอุบาลีคุณปรมาจารย์ (สิริจันทะเถระ) และเจ้าแก้วนวรัฐเป็นผู้สร้างขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๗๑ หน้าประตูทางเข้าวิหาร มีบันไดนาคเลื้อยงดงามยิ่ง ใช้หางเกี่ยวกระหวัดขึ้นไปเป็นซุ้มประตูวิหาร นาคคู่นี้เป็นฝีมือ เก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เดิมได้ชื่อว่าเป็นนาคที่สวยที่สุดของ มี พระอัฎฐารสเป็นพระประธานในพระวิหารหลวง หล่อด้วย ทองสำริด ปางห้ามญาติสูง 18 ศอก พระนางติโลกะจุดา ราชมารดาของพญาติโลกราช โปรดฯให้หล่อขึ้น เมื่อ พ.ศ. 1954 สมัยรัชกาลที่ 5 ใช้วิหารวัดเจดีย์หลวงเป็นที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัจจา แทนการใช้ที่วิหารวัดเชียงมั่น
วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่
2.พระเจดีย์หลวง 
เริ่มสร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 1934 สมัยพญาแสนเมืองมา สมัยพญาติโลกราช โปรดให้สร้างเสริมให้มีส่วนสูง 80 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมกว้าง ด้านละ 56 เมตรปรับรูปทรงเป็น แบบโลหะปราสาทของลังการูปลักษณ์ทรงเจดีย์แบบพุกาม ดัดแปลงซุ้ม ตรงสี่มุมของมหาเจดีย์ มีรูปปั้นช้างค้ำรายล้อมรอบองค์เจดีย์หลวงนั้นมี 28 เชือก การสร้างรูปปั้น ช้างนั้น เป็นการส่งเสริมกำลังเมืองในทางด้านไสยศาสตร์เพื่อให้เมืองมีความแข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีพิธีการ สักการบูชาพญาช้างทั้ง 8 เชือก เพราะเชื่อว่า จะทำให้เกิดสวัสดิมงคล นำความสงบสุขมาสู่บ้านเมือง ศัตรูไม่กล้า มารุกรานย่ำยีเมืองได้ เพราะชื่อพญาช้างที่ตั้งขึ้นนั้น เป็นพลังอำนาจก่อเกิดเดชานุภาพ อิทธิฤทธิ์ ข่มขู่บดบัง ขวางกั้น กำจัด ปราบปรามอริราชศัตรูที่จะมารุกราน ให้แพ้ภัยแตกพ่ายหนีไปเอง ซึ่งแต่ละชื่อมีความหมายดังนี้
วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่
3.เสาอินทขิล
เสาอินทขิลเดิมตั้งอยู่ในบรเวณพิ้นที่ซึ่งตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่เรียกว่า "สายดือเมือง" เมื่อพระเจ้ากาวิละย้าย ออกจากเวียงป่าซางซึ่งอยู่นาน 14 ปี 4 เดือน 20 วันเข้าสู่นครเชียงใหม่ เมื่อเดือน 6 ขึ้น 12ค่ำ ย้ายเข้าวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2339 เพื่อ "ส้างบ้านแปลงเมือง" นำเชียงใหม่สู่ ยุคเก็บผักใส่ช้าเก็บข้าใส่เมือง ฟื้นอำนาจ เชียงใหม่จนประสบชัยใน พ.ศ.2343 จึงเรียกชื่อเมืองเชียงใหม่ว่า "เมืองรัตตนติงสาภินวปุปรี" พร้อมก่อรูป กุมภัณฑ์รูป สุเทวฤษไว้ใกล้หออินทขีล ที่วัดโชติอารามวิหาร  ในเดือนมิถุนายน 2533 ถึงเดือน ธันวาคม 2535 กรมศิลปากรได้ว่าจ้างบริษัท ศิวกรการช่าง จำกัด บูรณปฎิสังขรณ์พระธาตุเจดีย์หลวง ด้วยงบประมาณ 35 ล้าน บาท รักษารูปทรงที่เหลืออยู่จากครั้งแผ่นดินไหว ให้มั่นคงยิ่งขึ้นโดยทำฐานกว้างด้านละ 60 เมตรและเสริม เติมส่วนที่มี ร่องรอยเช่น ช้างทั้ง 8 เชือก รอบพระเจดีย์แต่ได้รับการวิจารณ์หนัก และปัจจุบันมีความพยายามให้ ปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ให้เต็มองค์โดยนิมนต์สมเด็จพระสังฆราช เป็นองค์ประธาน ราวกับจะให้ร่องรอยพังทลาย ที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์หมดสิ้นไป

ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง : http://chiangmainice.blogspot.com/

เที่ยวแม่ริม ชมดอกไม้สวยที่ม่อนแจ่ม ที่เที่ยวเชียงใหม่



เที่ยวแม่ริม ชมดอกไม้สวยที่ม่อนแจ่ม เที่ยวเชียงใหม่

แม่ริม อำเภออีกหนึ่งอำเภอที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากนัก ใช้เวลาเดินทางเพียงงไม่ถึงสี่สิบนาทีจากตัวเมือง เราก็จะได้พบกับ สถานที่ท่องเที่ยวสวยงามและน่าสนใจมากมาย เริ่มจาก ม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม และดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิดให้เราได้ชมมากมายและด้วยการจัดตกแต่งที่ค่อยข้างจะครีเอทให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังเดินเล่นอยู่ท่ามกลางมวลหมู่ดอกไม้ ไม่ว่าจะหันไปมุมไหนก็ตาม ม่อนแจ่มจึงกลายเป็นสถานที่สุดแสนโรแมนติกอีกแห่งหนึ่ง ที่ไม่ควรพลาดและใ่ส่ไว้ในจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยว

ม่อนแจ่ม
ภาพสวยๆที่ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ม่อนแจ่ม เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านม้ง หนองหอย อ.แม่ริม   มีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีหมอกยามเช้าให้ได้ชม สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ โดยรอบไกลสุดลูกหูลูกตา เมื่อก่อนพื้นที่ บริเวณนี้ เป็นป่ารกร้าง จนในท้ายที่สุดโครงการหลวงมาขอซื้อพื้นที่ เมื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหลวง คุณแจ่ม-แจ่มจรัส สุชีวะ หลานของ ม.จ. ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวงได้เข้ามาพัฒนาและปรับปรุงบริเวณม่อนแจ่มให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะในลักษณะ ของแค้มปิ้งรีสอร์ท  ที่พักเพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ข้างบน คือ ม่อนแจ่ม แคมปิ้ง รีสอร์ท มีร้านอาหารให้บริการ มีที่พักแบบเต้นท์พร้อมเครื่องนอน (ไม่อนุญาติให้นำเต้นท์ส่วนตัวมากางข้างบน) นอกจากนี้ก็จะมีที่พักของเอกชนต่างๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างทางขึ้นไปม่อนแจ่ม ให้บริการอีกหลายแห่งแต่ไม่เยอะมาก

ม่อนแจ่ม
ภาพสวยๆที่ม่อนแจ่ม เที่ยวเชียงใหม่

ม่อนแจ่ม มีเนื้อที่ไม่กว้างมาก จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ โซนนั่งเล่น รับประทานอาหาร เป็นกระท่อมแนบชิดธรรมชาติ นั่งทานไปชมวิวภูเขาไป ชิวสุดๆอีกส่วนก็จะเป็นแปลงปลูกดอกไม้เมืองหนาว  สวยงามเหมาะกับการถ่ายรูป ก็จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมายแทรกตัวอยู่ท่ามกลางมวลหมู่ดอกไม้จะมีทางเดินไว้สำหรับเดินชมสวนและถ่ายภาพลดหลั่นกันไปถึงข้างล่าง ดอกไม้จะปลูกแซมกันไประหว่างทางเดิน เรียกว่าใกล้ชิดกับดอกไม้ทุก Step การย่างก้าว และ มีพื้นที่นั่งพักผ่อนชมวิว รับลมเย็นในยามเย็น บรรยากาศของ ม่อนแจ่ม ก็โรแมนติกไม่แพ้ใคร เพราะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง
 ม่อนแจ่ม
จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก ม่อนแจ่ม เชียงใหม่


คลิปวิดิโอพาเที่ยวม่อนแจ่ม

ที่มา: paiduaykan.com , youtube channal thaitravelhealth
ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง : http://chiangmainice.blogspot.com/

29 เมษายน 2556

ถ้ำเชียงดาว ที่เที่ยวเชียงใหม่



ถ้ำเชียงดาว ที่เที่ยวเชียงใหม่



คลิปวิดิโอ พาเที่ยวถ้ำเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

ถ้ำเชียงดาว เป็นถ้ำที่น่าสนใจถ้ำหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในเขต อำเภอเชียงดาว ตั้งอยู่เชิงเขาของดอยหลวงเชียงดาว ภายใน แต่ละถ้ำ มีความงามจากการเสกสรรปั้นแต่งของธรรมชาติ ชวนให้ตื่นตาตื่นใจกับปรากฏการณ์ของหินงอกหินย้อย ที่ก่อให้ เกิด รูปร่างต่างๆเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ภายในมีหินงอกหินย้อยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่สวยงาม บางแห่งเป็นซอกหลืบ เมื่อฉายไฟ จะมีประกายระยิบระยับ สามารถจินตนาการเป็นรูปต่างๆได้มากมาย เสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่อยู่ตรงที่มีน้ำใส่ไหลเย็นจากในถ้ำไหล ออกมาที่บริเวณหน้าถ้ำ เป็นอย่างนี้ชั่วนาตาปีไม่มีเหือดหาย และไหลมารวมกันเป็นสระน้ำมีปลาน้อยใหญ่ว่ายวนไปมา ทำให้ บรรยากาศสดชื่นและยังร่มรื่น ด้วยพันธุ์ไม้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมากและ ตรงหน้าถ้ำนี้เองเป็นที่ตั้งของ วัดถ้ำเชียงดาว

ภาพบรรยากาศถ้ำเชียงดาว ที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่

ตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำเชียงดาว 

ถ้ำหลวงเชียงดาวเป็นโบราณสถานที่ผู้คนมากมายเลื่อมใสศรัทธา ซึ่งอาจเป็นเพราะได้รู้เรื่องราวอัศจรรย์แต่ในหน หลังที่เล่าสืบ ต่อกันมา นั่นก็คือเจ้าหลวงคำแดง เป็นบุตรชายของเจ้าผู้ครองเมืองพะเยา ได้ทิ้งบ้านเมืองเพื่อออกตามหาหญิงสาวที่แปลงร่าง เป็นกวางทอง เพราะหลงรูปโฉมที่สวยงาม ซึ่งหายลับเข้าไปในถ้ำหลวงเชียงดาว เจ้าหลวงคำแดงจึงได้ตามเข้าไปในถ้ำเช่นเดียวกัน โดยไม่ได้กลับออกมาอีกเลย หากแต่ไม่จุติใหม่เป็นเทวดาผู้มีฤทธิ์อยู่ในภายถ้ำ และปกปักรักษาถ้ำหลวงเชียงดาว ต่อมาชาวบ้านได้ สร้างศาลถวายท่านและตั้งชื่อว่า“ศาลพ่อหลวงคำแดง”ตามตำนานกล่าวไว้ว่า ในคืนที่มีนิมิตหมายอันดี อีกทั้งบนท้องฟ้าก็ ไร้เมฆ หมอก จะปรากฏลูกกลมๆ มีแสงสว่างคล้ายพระธาตุลอยออกมาจากหลังดอยเชียงดาวแล้ว เคลื่อนไปทางทิศตะวันออก เป็นเวลา 5 นาที ก็จะได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงของปืนใหญ่พร้อมกับแสงสว่างนั้นก็หายไปด้วย ชาวบ้านมักจะเชื่อกันว่า เป็นวิญญาณของ เจ้าหลวงคำแดง ไปเยี่ยมบ้านเกิดเมืองนอนที่เมืองพะเยา

นอกจากนี้ยังมีตำนานเรื่องเล่ากันต่อๆ มาอีกว่ามีฤาษี ชื่อว่า “พรหมฤาษี”เป็นผู้วิเศษด้วยฌานอันแก่กล้า ได้เรียกประชุมเทวดา อินทร์ พรหม ยักษ์ อสูร นาคราช เป็นต้น เพื่อมาเนรมิตสิ่งวิเศษต่างๆ เช่น พระพุทธรูปทองคำ ต้นโพธิ์ทองคำ ช้างวิเศษหรือ ช้างเอราวัณ ดาบวิเศษหรือดาบศรีกัญชัย อาหารทิพย์ ม้าวิเศษ เป็นต้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถูกเก็บไว้ที่ส่วนลึกภายในถ้ำและได้รับ การดูแลรักษาเป็นอย่างดีจากเทวดาผู้มีฤทธิ์ชื่อว่า “เจ้าหลวงคำแดง” ครั้งหนึ่งมีชาวบ้าน 2 คนได้เข้าไปในถ้ำเพื่อ ค้นหาของวิเศษ และต้องการนำออกมาจากถ้ำด้วย แต่แล้วก็มีอันเป็นไป คือทั้ง 2 คนหาทางออกมาจากถ้ำไม่ได้ แม้ญาติพี่น้องจะเข้าไปตามหาก็ ไม่พบ ภายหลังมีชาวบ้านเข้าไปพบโดยบังเอิญ ปรากฏว่าคนหนึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนอีกคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ จึงนำมารักษาตัวที่บ้าน แต่เพียงไม่ถึงอาทิตย์ก็เสียชีวิตหลังจากนั้นก็มีเรื่องราวของคนที่เข้าไปในถ้ำแล้วหลงทางกลับออกมาไม่ได้ จนต้องเสียชีวิตอยู่ในถ้ำ เพราะ มีจิตอกุศลคิดอยากได้ของวิเศษนั้นมาเป็นสมบัติส่วนตัว ดังนั้นเรื่องราวในตำนานจึงกลายเป็นความเชื่อ ความศรัทธาในความ ศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำหลวงเชียงดาวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
สำหรับเกร็ดความเชื่อความศรัทธาเกี่ยวกับถ้ำหลวงเชียงดาวยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น พระพุทธรูปหินอ่อนที่อยู่คู่ถ้ำหลวงเชียงดาว มาเนิ่นนาน ได้มีคนขโมยไปแต่ก็เกิดเหตุร้ายเกือบถึงแก่ชีวิต จนต้องนำกลับไปคืนดังเดิม อีกเรื่องหนึ่งคือ “พระพุทธรูปทันใจ”ที่ อยู่ใน วัดถ้ำเชียงดาวซึ่งเชื่อกันว่าหากได้อธิษฐานขอพรแล้วจะสมหวังดังปรารถนาอย่างรวดเร็วทันใจ ดังเช่นชื่อของ พระพุทธรูป องค์นี้
ภาพบรรยากาศถ้ำเชียงดาว เที่ยวเชียงใหม่


ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง : http://chiangmainice.blogspot.com/

บ้านตีนผา สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่




บ้านตีนผสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่  

บ้านตีนผาา ตั้งอยู่ หมู่ 15 ต. ช่างเคิ่ง อ. แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาของ ดอยอินทนนท์ ห่างจาก ตัวเมืองแม่แจ่มประมาณ 8  กิโลเมตร  ที่นี่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านขาวเขาชาวปกากญอ ซึ่งนอกจากเราจะได้ชมวิถีชีวิต วัฒนธรรม ของชนเผ่า ที่อาศัยอยู่อย่างเรียบง่ายแล้ว ยังได้พบกับธรรมชาติและ วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของนาข้าวขั้นบันได และพืชทางเกษตรต่าง เช่น ทั้งข้าวไร่ ข้าวโพด ฟักทอง ที่ปลูกลดหลั่น กันไปบนภูเขาสูง สลับกันลูกแล้วลูกเล่า เป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก

บ้านตีนผา

หากใครเคยประทับใจกับนาข้าวขั้นบันไดในตัวอำเภอแม่แจ่ม และแม่กลางหลวง ถ้าได้มีโอกาสที่บ้านตีนผาจะ ประทับใจในวิว ทิวทัศน์ของนาข้าวขั้นบันไดบนภูเขา ในอีกหนึ่งมุมมอง ซึ่งหาชมจากที่ไหนได้ยาก
การเดินทาง 
สำหรับการเดินทางมาที่บ้านตีนผาที่เที่ยวเชียงใหม่ต้องอาศัยรถกระบะที่มีแรงกำลังในการขับเคลื่อนเท่านั้น เนื่องจากสภาพถนน แคบขรุขะ และเป็นดินแดงตลอดทาง สามารเดินทางได้  2 ทาง
เส้นทางแรก จากฝั่งดอยอินทนนท์  ส้น ทางดอยอินทนนท์ขับไปเรื่อยๆ จนถึงด่านของอุทยาน เลี้ยวไปยังทางแยกที่จะไปอำเภอ แม่แจ่ม ขับเรื่อยๆไป 12 กิโลเมตร จะพบป้าย น้ำตกแม่ปาน เลี้ยวขวาลงไปตามป้ายนั้น ในระหว่างจะผ่าน น้ำตกห้วยทรายเหลือง, น้ำตกแม่ปาน, และน้ำตกผาสำราญ ขับเรื่อยไปอีกประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านตีนผา หากไม่มีรถส่วนตัวสามารถใช้ บริการรถสองแถวนำเที่ยวสีเหลืองจากจอมทอง หรือรถกระบะนำเที่ยวพี่สีทอง บ้านแม่กลางหลวง 085 723 4957 ราคา 1500 บาท
เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองแม่แจ่มซึ่งจะใกล้และเส้นทางดีกว่า  มาถึงที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มให้เลี้ยวขวา จะพบ 7-11 อยู่ฝั่งขวามือ ให้ตรงไปประมาณ 1 กิโลี้จะมีทางแยกซ้ายมือไปวัดพุทธเอิ้นและนาขั้นบันไดบ้านกองกาน ให้ตรงไปจะพบบ้านต่อเรือมุ่งตรงไป เรื่อยๆประมาณ 10 กิโล จะมาถึงบ้านทุ่งยาวขับตรงไป สังเกตุคือหลักกิโลแม่นาจร 16  เลี้ยวขวาจะเจอวัดทุ่งยาวให้เลี้ยวซ้าย เข้ามาประมาณ 1 กิโลจะเจอหมู่บ้านแม่มิงค์ สังเกตุป้ายเล็กๆจะบอกว่าไป ร.ร.อินทนนท์วิทยาเลี้ยวขวาจะพบหน่วยจัดการต้นน้ำ แม่อวม และก็จะมาถึงบ้านป่าตึงให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนทางลาดยางจะสิ้นสุดตรงนี้ ชับตรงไปประมาณ 1 กิโลจะพบทางแยก ทางซ้ายไปบ้านตีนผา ส่วนทางขวาไปบ้านป่าบงเปียง
หากไม่มีรถส่วนตัวสามารถใช้บริการรถสองแถวนำเที่ยวสีเหลืองจากแม่แจ่ม คุณเป๊ก โทร 082 888 5180 ค่าบริการไปกลับ 1200 บาท (นั่งได้ 10 คน)
หมายเหตุ ราคารถเช่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงก่อนเดินทางกรุณาเช็คราคาอีกครั้ง

บ้านตีนผา


ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง : http://chiangmainice.blogspot.com/

28 เมษายน 2556

ร่มบ่อสร้าง สันกำแพง ที่เที่ยวเชียงใหม่



ร่มบ่อสร้าง สันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่


ร่มบ่อสร้าง เป็นสินค้าที่สร้างชื่อเสียงให้แก่จังหวัดเชียงใหม่มาช้านานหลายชั่วอายุคนแล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ เดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ส่วนใหญ่จะต้องแบ่งเวลาแวะเวียนไปที่อำเภอสันกำแพง เพื่อชมและเลือกซื้อร่มบ่อสร้าง ที่“บ้านบ่อสร้าง”เป็นที่ระลึกติดมือกลับมา ถือเป็นสินค้าพื้นเมืองที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ สาเหตุที่เรียกว่าร่มบ่อสร้างเพราะร่มนี้ผลิตกันที่บ้านบ่อสร้าง สมัยก่อนชาวบ้านจะ ทำร่มกันใต้ถุนบ้าน แล้วนำออกมาวางเรียงรายเต็มกลางลานบ้านเพื่อผึ่งแดดให้แห้ง สีสันและลวดลายบนร่มนั้น สะดุดตาผู้พบเห็น มีทั้งหมด 3 ชนิดด้วยกัน คือ ร่มที่ทำด้วยผ้าแพร ผ้าฝ้าย และกระดาษสา แต่ละชนิดมีวิธีทำ อย่างเดียวกัน  หากนักท่องเที่ยวประสงค์จะชมขั้นตอนการผลิต ไปชมได้ที่ศูนย์อุตสาหกรรมทำร่ม
ชาวบ่อสร้างทั้งตำบลรวมไปถึงอีก 8 หมู่บ้านในตำบลใกล้เคียงของพื้นที่อำเภอสันกำแพง และอำเภอดอยสะเก็ดที่เที่ยวเชียงใหม่ ใน จังหวัดเชียงใหม่ล้วนแต่เป็นแหล่งผลิตร่มด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่างานทำมือของชาวบ้านได้กลายเป็นโรงงาน อุตสาหกรรมที่ครอบคลุมพื้นที่ หลายร้อยครัวเรือนในหลายๆหมู่บ้าน การผลิตชิ้นส่วนร่มเป็นหน้าที่ของแรงงานที่ เป็นชาวบ้านในแต่ละหมู่บ้านตั้งแต่รุ่น พ่อเฒ่าแม่เฒ่าลงมาจนถึงคนหนุ่มสาวนับพันๆคน ดังนั้นบ่อสร้างจึงเป็นเพียง หมู่บ้านประกอบร่มโดยมีชิ้นส่วนต่างๆของร่มเดินทางมาจากต่างหมู่บ้าน ซึ่งส่วนประต่างๆของร่มที่เกิดจากแรงงาน ใต้ถุน บ้านและกระจายกันอยู่ทั่วไปก็จะมารวมกันอยู่ที่นี่เป็นจุดสุดท้าย

คลิปวิดิโอ พาชมการทำร่มบ่อสร้าง จังหวัดเชียงใหม่


การทำร่มบ่อสร้างมีมานับร้อยปี ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงมีความถนัดในการทำร่มแตกต่างกันไปตามชิ้นส่วนที่ได้รับ มอบ หมายในการผลิต เช่น หมู่บ้านสันพระเจ้างาม ผลิตหัวร่มและตุ้มร่ม บ้านออนทำโครงร่ม บ้านหนองโค้งหุ้มร่ม และลงสี บ้านแม่ฮ้อยเงิน อำเภอดอยสะเก็ดผลิตด้ามร่ม บ้านต้นเปาผลิตกระดาษสาแต่การประกอบชิ้นส่วนของ ร่มทั้งหมดจะมารวมกันอยู่ที่บ่สร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระบายลวดลาย และสีสันบนผืนร่มที่ถือว่าเป็น สัญลักษณ์อันเลื่องชื่อของร่มบ่อสร้าง มีกลเม็ดเคล็ดลับในการทำร่มอยู่ที่การใช้แป้งเปียกผสมน้ำมะโก้ติดผ้า หรือกระดาษเข้ากับร่มทำให้ติดทนนานไม่หลุดร่อนก่อนเวลาอันควร และเวลาลงสีน้ำมันที่ต้องผสมกับน้ำมันมะมื้อ หรือน้ำมันตังอิ๊วที่ทำให้ร่มทนแดด ทนฝน และใช้งานได้จริงไม่ว่าหน้าฝนหรือหน้าร้อนเพราะฉะนั้น นอกจาก ร่มบ่อสร้าง จะเป็นของที่ ระลึกสวยงามแล้วยังสามารถคุ้มแดดคุ้มฝนได้เป็นอย่างดี



ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง : http://chiangmainice.blogspot.com/

26 เมษายน 2556

น้ำตกผาดอกเสี้ยว ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่



น้ำตกผาดอกเสี้ยว ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่

น้ำตกผาดอกเสี้ยว

น้ำตกผาดอกเสี้ยว ตั้งอยู่ที่ บ้านแม่กลางหลวงในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และงดงาม ซึ่งอยู่ภายใน เขตอุทยานแห่งชาติอินทนนท์  น้ำตกแห่งนี้เคยมีชื่อเสียงมากหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่อง รักจังซึ่งจะเป็นน้ำตกที่นักท่องเที่ยวที่มา เที่ยวแม่กลางหลวงต้องแวะไป น้ำตกผาดอกเสี้ยวมีทั้งหมด 10 ชั้น โดยชั้นที่ชมได้สะดวกคือ ชั้นที่ 6, 7, 8, 9 และ 10 แต่ไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปเยือนคือน้ำตกผาดอกเสี้ยว ชั้นที่ 7เพราะสายน้ำจากน้ำตกชั้นบน ไหลตกลงมากระทบน้ำตก ชั้นล่าง เป็นสายสีขาว ฟูฟ่อง งดงามเกินบรรยาย อีกทั้งยังมีสะพานไม้สำหรับเดินข้ามลำธาร ที่ช่วยทำให้ความสวยงามของน้ำตก ผาดอกเสี้ยวน่ามองเขาไปอีก ส่วนที่มาของชื่อน้ำตกผาดอกเสี้ยวก็มาจากชื่อ ต้นเสี้ยซึ่งเป็นไม้เด่นบริเวณน้ำตกนั้นเอง
นอกจากจะได้ชมความสวยงามของน้ำตกผาดอกเสี้ยวแล้ว ยังได้ศึกษาธรรมชาติสองข้างทาง เพลิดเพลินกับนาขั้นบันไดที่หา ชมได้ยากเต็มที่ รวมถึงวิถีชีวิตชาวปกาเกอญอ ซึ่งเลื่องชื่อในการอนุรักษ์อีกด้วย  สำหรับคนที่สนใจอยากไปเที่ยวน้ำตกแห่งนี้ สามารถติดต่อได้ที่ บ้านแม่กลางหลวง (ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ) กม. 26 เดินตามเส้นทางประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงน้ำตกชั้นแรก เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องรักจัง เป็นน้ำตกที่สวยงามมากแห่งหนึ่งทีเดียว
น้ำตกผาดอกเสี้ยว
ภาพน้ำตกดอกผาเสี่ยว ที่เที่ยวเชียงใหม่


ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง : http://chiangmainice.blogspot.com/

บ่อน้ำพุร้อนฝาง ดอยผ้าห่มปก ที่เที่ยวเชียงใหม่


บ่อน้ำพุร้อนฝาง ดอยผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่

บ่อน้ำพุร้อนฝาง ตั้งอยู่ภายใน"อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ทางธรรมชาติที่มี ความน่าอัศจรรย์อยู่ในตัว ตรงที่เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นมาจากหินร้อนเหลวที่อยู่ใต้เปลือกโลก (แม็กม่า) ไหลแทรกมาตามช่องหินขึ้นมาใกล้เปลือกโลก ทำให้ชั้นหินบริเวณนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้น และเมื่อน้ำบาดาลไหลผ่านชั้นหินร้อนดังกล่าว จึงทำให้อุณหภูมิของน้ำนั้นสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้เกิดแรงดันมหาศาล และดันตัวเองผ่านรอยแยกของหินแกรนิตขึ้นมาบนพื้นผิวโลก จนเกิดเป็นน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมา โดยมีไอร้อน เป็นควันลอยคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งความร้อนของน้ำในบ่อน้ำพุร้อนนั้นมีความร้อนสูงประมาณ 80-100 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว

ดอยผ้าห่มปก

สำหรับ บ่อน้ำพุร้อนฝาง มีมากมายกว่า 50 บ่อ โดยตั้งกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปรอบๆ ภายในบริเวณพื้นที่ที่กว้างใหญ่กว่า 10 ไร่ ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติฯ ได้พัฒนาพื้นที่ให้มีความสวยงามเข้ากับธรรมชาติ โดยทำทางเดินด้วยแนวหิน เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดิน เข้าไปชมบ่อน้ำพุร้อนได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งบ่อน้ำพุร้อนบางบ่อก็มีขนาดใหญ่ บางบ่อมีขนาดเล็ก แต่ว่าจะมีบ่อใหญ่อยู่หนึ่งบ่อที่จะมี ไอน้ำพุ่งขึ้นสูงกว่า 40-50 เมตร ซึ่งสร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ที่ได้มาชม พร้อมกับส่งกลิ่นกำมะถันกระจายไปทั่วและก็มีบางบ่อที่มี อุณหภูมิสูงถึงขนาดสามารถต้มไข่จนสุกได้ภายในระยะเวลาแค่ 10-20 นาที ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติฯ ก็ได้จัดเป็นกิจกรรมต้มไข่ ในบ่อน้ำพุร้อนไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงใหม่

 คลิปวิดิโอ บ่อน้ำพุร้อนฝาง ที่เที่ยวเชียงใหม่

ภาพบรรยากาศ บ่อน้ำพุร้อนฝาง

น้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากบ่อเหล่านี้ยังมีคุณสมบัติของแร่ธาตุที่มีคุณประโยชน์มากมาย อย่างเช่น แคลเซียม โซเดียม ซัลเฟอร์ ที่เชื่อว่ามีคุณสมบัติในการช่วยรักษาโรคผิวหนัง และโรคไขข้ออักเสบได้ ทั้งยังช่วยให้โลหิตไหลเวียนได้ดี เมื่อนำมาอาบซึ่งบ่อ น้ำพุร้อนฝางก็ได้ผ่านการวิเคราะห์แล้วว่ามีคุณสมบัติของแร่ธาตุดังกล่าว ที่สามารถนำมาอาบได้โดยปลอดภัย ทางอุทยานฯ ได้จัด ทำห้องอาบน้ำแร่ ห้องอบไอน้ำ และบ่อน้ำร้อนไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาอาบน้ำพุร้อน โดยตั้งอยู่ก่อนถึงที่ทำการ อุทยานแห่งชาติฯ เล็กน้อย และทางอุทยานแห่งชาติฯ ยังได้จัดให้มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเดินขึ้นเขา ป่าเบญจพรรณมาถึง ยังบ่อน้ำพุร้อน มีระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร

ค่าบริการอาบน้ำแร่
อาบน้ำแร่กลางแจ้งไม่จำกัดเวลา ผู้ใหญ่ 20 เด็ก 10
- อบไอแร่ ผู้ใหญ่ 30 เด็ก 10 บาท
ค่าบริการห้องแช่น้ำแร่
- ค่าบริการท่านละ 50 บาท ใช้บริการ 2 ท่านขึ้นไปต่อห้อง
- ราคาเหมาห้อง ห้องละ 150 บาท ใช้บริการ 3-5 ท่าน
- ถ้าต้องการใช้บริการ 1 ห้อง ต่อ 1 คน คิดห้องละ 100 บาท
- ใช้บริการครั้งละ 30 นาที
บริการผ้าเช่า
- ผ้าถุงผืนละ 10 บาท
- กางเกงตัวละ 10 บาท
- ผ้าขนหนูผืนเล็ก 10 บาท
- ผ้าขนหนูผืนใหญ่ 15 บาท


ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง : http://chiangmainice.blogspot.com/

25 เมษายน 2556

ร้านอาหารเชียงใหม่ บ้านกังหัน…."The Windmill" รังสรรค์เมนูอร่อย เพื่อคุณ



ร้านอาหารเชียงใหม่ บ้านกังหัน…."The Windmill"

“กังหันลม” (Windmill) เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของ “ฮอลแลนด์” แต่วันนี้ กังหันลม จะกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความอร่อยกับร้าน “The Windmill”     เดิมที The Windmill มีชื่อว่าบ้านกังหัน ซึ่งพอเปลี่ยนทีมผู้บริหาร ก็เปลี่ยนชื่อตาม พร้อมทั้งมีเมนูดีๆเด็ดๆมานำเสนอมากมาย บนพื้นที่หลายไร่ ริมถนนวงแหวนแม่เหียะ
โดยที่นี่เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึง 5 ทุ่ม สามารถรองรับแขกเหรื่อได้มากมาย กว่า 500 ที่นั่ง พร้อมทั้งยังรับจัดเลี้ยง จัดงานแต่งงาน หรืองานประชุมสัมมนาอีกด้วยความอร่อยของที่นี่ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิภันจากเจ้าของร้านเอง ตั้งแต่ขั้นตอนของการเลือกซื้อวัตถุดิบ ที่คัดสรรแต่ของคุณภาพดี สดใหม่วันต่อวันมาปรุงเป็นเมนูพิเศษให้นักกินทั้งหลายได้ลิ้มรส และนอกจากนี้ในทุกๆจานยังได้เชฟมือดีอย่าง “เชฟเมธี มหามิตร” Executive Chef ประธานชมรมพ่อครัว-แม่ครัวภาคเหนือ พร้อมทีมงาน มาปรุงความอร่อยให้รับประทานกันอีกด้วย
บรรยากาศร้านบ้านกังหัน ที่กินเชียงใหม่

อาหารของที่นี่ จะเน้นที่อาหารยุโรปแบบดั่งเดิม อาหารไทย และอาหารจีน ซึ่งมีเมนูแนะนำ อาทิ ไก่ย่างตะไคร้ , ยำถั่วพูล , สเต็กปลาแซลมอนซอสส้ม ,  ขาหมูเยอรมัน , หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส และปลากะพงทอดน้ำปลา เป็นต้น”ไก่ย่างตะไคร้” เป็นเมนูทีเด็ดประจำร้าน กับไก่ที่นำมาหมักเครื่องเทศและตะไคร้ ย่างพอสุก เสิร์ฟให้รับประท่านกับน้ำจิ้มแจ่ว ซึ่งเมื่อได้ลิ้มรสแล้วจะได้ความหวานของไก่เนื้อนุ่ม ที่ส่งกลิ่นหอมของตะไคร้และเครื่องเทศเตะจมูก , “ยำถั่วพูล” ถั่วพูลสดๆอ่อนๆ
พร้อมกุ้ง และอีกสารพัน ที่นำมายำกับน้ำยำรสกลมกล่อมสูตรเด็ดประจำร้าน ,  “สเต็กปลาแซลมอนซอสส้ม” กับปลาแซลมอนคุณภาพดี มาพร้อมกับซอสส้มสูตรพิเศษ ที่มีส่วนผสมของน้ำส้มเขียวหวานสด , “ขาหมูเยอรมัน” ขาหมูที่เชฟหมักเองตุ๋นเองวันต่อวัน ทอดออกมาในแบบฉบับกรอบนอกนุ่มใน เพิ่มรสชาติด้วยน้ำจิ้มสามรสและมาสตาร์ด
“ปลากะพงทอดน้ำปลา” ที่ใช้ปลากะพงขาวมาทำ เป็นปลาสดๆตัวเป็นๆ ที่เมื่อลูกค้าสั่งเมื่อไหร่ พร้อมลงน้ำไปจับมาปรุงให้ทานกันสดๆชามต่อชาม
นอกจากนี้ยังมีเมนูให้เลือกลิ้มรสอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเซอร์ลอยด์ย่างจิ้มแจ่ว , สเต็กเนื้อซี่โครงแกะย่าง ซอสสะระแหน่ , ยำกระเพาะปลา , ยำปลาดูกฟูไข่ , กุ้งแม่น้ำอบชีส , ปลากะพงม้วนยัดไส้ผักโขม , ปลาทอดกับมันฝรั่ง , ลาซานญ่าเนื้อบด , ต้มข่าไก่ , แกงกะหรี่หมู-ไก่-เนื้อ , ต้มส้มไก่บ้าน , ข้าวผัดเขียวหวานหมู-ไก่ , ข้าวผัดปลาเค็ม , ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลากะพง และข้าวไข่ข้นกุ้ง เป็นต้น

ภาพอาหารอร่อยๆ


@@  The Winmill 433 หมู่ 4 ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5327-4800
www.facebook.com/TheWindmillChiangMai

ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง : http://chiangmainice.blogspot.com/

เส้นทางดอกนางพญาเสือโคร่งบานห้วยน้ำดัง ที่เชียงใหม่


เส้นทางดอกนางพญาเสือโคร่งบานห้วยน้ำดัง เชียงใหม่


ภาพบรรยากาศสวยๆ เที่ยวเชียงใหม่ 

เรามาถึงเส้นทางท่องเที่ยว เส้นที่ 4 ดอกนางพญาเสือโคร่งบานขุนแม่ยะ และห้วยน้ำดัง เส้นนี้ต้องขอบอกว่าเหมาะกับผู้ที่ชอบในแบบลุยๆกันหน่อยเราถึงจะได้ สัมผัสความงดงามของธรรมชาติขุนเขา สายหมอก ดอกไม้เริ่มต้นที่ “ชมทะเลหมอกห้วยน้ำดัง” ที่ขอบอกว่าอยู่อันดับต้นบรรดาทะเลของประเทศไทยเลย เมื่อแสงแรกฉายแสงสีทองจากขอบฟ้า ภาพทะเลหมอกขาวก่อตัวหนาแน่ราวปุยนุ่นช่างเป็นภาพที่มหัศจรรย์งดงามเสียจริงๆใครขี้เกียจ ตื่นสาย 09.00-10.00 น. ทะเลหมอกก็ยังรอคุณพอให้ได้ชมได้ถ่ายภาพสวยๆมาฝากเพื่อนๆ
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่อุทยานฯมีดอกพญาเสือโคร่งอยู่ไม่มากนัก ยามเช้าๆมีนกเล็กๆน่ารักบินมาเกาะกินน้ำหวานจากดอกไม้พญาเสือโคร่งมีนกแว่นตาขาว นก…. นกปรอดสีเขม่า และนกปรอดหัวโขน ยังมีสถานที่ยังเที่ยวที่น่าสนใจ พระตำหนักเอื้องเงิน น้ำตกแม่หาด น้ำตกแม่ลาด จุดชมวิวกิ่วลม จุดชมวิวยอดเขาดอยช้าง จุดชมวิวลานกางเต้นท์ โป่งน้ำร้อน น้ำพุร้อนโป่งเดือด เส้นเดินป่าศึกษาธรรมชาติดอยช้างและเอื้องเงิน
ขับรถต่อมาเส้นเชียงใหม่ปาย-แม่ฮ่องสอนมายังป่าสีชมพู “ขุนแม่ยะ” จากถนนใหญ่เข้ามาอีก 8 กิโลเมตรเป็นถนนลูกรัง เป็นที่ตั้งของ หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ สังกัดส่วนจัดการต้นน้ำ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่ และ แม่ฮ่องสอน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,020 เมตร พื้นที่ทั้งหมดนั้นอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ แต่ก่อนเคยเป็นผืนป่าที่เสื่อมโทรม ถูกทำลายจนราบโล่ จนได้เริ่มฟื้นฟูปลูกต้นพญาเสือโคร่ง ในช่วงแรกเนื่องจากต้นพญาเสือโคร่ง เป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตเร็ว และยังมีดอกที่สวยงามอีกด้วย จนปัจจุบันนี้ ดอกพญาเสือโคร่งขุนแม่ยะ เป็นอีกสถานที่ที่รู้กันนามนักท่องเที่ยวว่าสวยงามไม่แพ้ที่ใดเลย


 ชมดอกนางพญาเสือโครง ที่เที่ยวเชียงใหม่
การเดินทาง
1. รถยนต์ส่วนตัว
ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1095 (สายแม่มาลัย – ปาย)จะผ่านทางเข้า อช.ห้วยน้ำดัง เลยไปประมาณ 1 กม. จะถึง ด่านตรวจแม่ยะ, ด่านกักกันสัตว์แม่ยะปากทางเข้าหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ยะ จะอยู่ทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้าย เข้าไปอีก 8 กม เป็นทางลูกรังบริเวณหน่วยจัดการขุนแม่ยะ เส้นทางเข้าหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ยะ เป็นดินลูกรัง ค่อนข้างลำบาก รถที่สามารถเข้าไปได้ต้องเป็นรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น และ ต้องขับอย่างระมัดระวังด้วย ความชำนาญนักท่องเที่ยวจะ
นิยมจอดรถไว้ตรงปากทางเข้าแล้วใช้บริการรถของชาวบ้านที่คุ้นเคยกับพื้นที่มากกว่า ซึ่งมีให้บริการ อยู่ตรงปากทางเข้าตลอดทั้งวัน ราคาเหมาไปกลับไม่ค้างคืน 1,200 บาทแบบ 2 วัน 1 คืน 1,500 บาท
2. รถโดยสารสารธารณะ
จากเชียงใหม่ รถตู้ สายเชียงใหม่-ปาย รถตู้ปรับอากาศจะออกทุกชั่วโมง เที่ยวแรก 06.30 น. เที่ยวสุดท้าย 16.30 น. ราคา 150 บาท หรือนั่งรถโดยสาร เชียงใหม่-ปาย เวลา 10.30 น., 14.00 ,15.00 ราคา 72 บาท แล้วไปลงระหว่าง ทางที่ด่านตรวจแม่ยะ จากนั้นเหมารถเช่าของชาวบ้านขึ้นไปหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ
ช่วงเวลาการผลิดอกนางพญาเสือโคร่ง : กลางเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์

คลิปวิดิโอ ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ชมพญาเสือโครง


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง โทร.053-248491,053-819349   , ททท.สำนักงานเชียงใหม่ โทร.053-2761640

ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง : http://chiangmainice.blogspot.com/

24 เมษายน 2556

แนะนำที่พักเชียงใหม่ ฟ่อนคำวิลเลจ บูติครีสอร์ท


แนะนำที่พักเชียงใหม่ ฟ่อนคำวิลเลจ บูติครีสอร์ท

ฟ่อนคำวิลเลจ  บูติครีสอร์ท ถือกำเนิดขึ้นจากจินตนาการของเจ้าดวงเดือน ผู้ก่อตั้งว่า อยากให้ ฟ่อนคำเป็นรีสอร์ทที่มีเรื่องราวอยู่ในตัวเอง  เรื่องในจินตนาการมีอยู่ว่า …..ในสมัยที่เชียงใหม่ยังยังระส่ำระสายประชาชนอยู่กันอย่างไม่มีความสุข เจ้าหญิงองค์สุดท้ายของเชียงใหม่ได้ออกรวบรวมชักชวนให้ชาวบ้านที่อยากติดตามตน ให้ติดตามและหาที่พักตั้งเป็นหมู่บ้านใหม่ที่มีแต่ความสุข ก็ได้ชนกลุ่มหนึ่งที่พร้อมติดตามเจ้าหญิงและเดินทางขึ้นมาที่ทางดอยสะเมิง และได้พบพื้นที่ที่เหมาะสมในการตั้งหมู่บ้าน ในตำบลบ้านฟ่อน จึงให้ชื่อว่า ฟ่อนคำ  ฟ่อนคำวิลเลจ มีกลุ่มเฮือนที่ตั้งอยู่รวมกันเรียกกลุ่มชนกลุ่มน้อย

ภาพบรรยากาศที่พัก  บูติครีสอร์ท

            ที่ติดตามเจ้าหญิงมาตั้งเป็นชื่อห้องต่างๆ ห้องผีตองเหลือง เฮือนลัวะ เฮือนมิชชันนารี ที่มีเฮือนนี้ด้วยเพราะเป็นที่ทราบดีว่ากลุ่มผู้สอนศาสนาคริสต์นั้นเข้ามาในไทยนานแล้วและที่ไหนมีชนกลุ่มน้อยที่นั่นจะมี มิชชันนารีด้วย จากนั้นก็เป็นเฮือนกระเหรี่ยง ม้ง เฮือนนายฮ้อยหย่าศึก จากนั้นก็เป็นกลุ่มเฮือนผู้ใหม่  เช่น เฮือนไตใหญ่ เฮือนสิบสองปันนา เฮือนคนเมือง หอคำ ซึ่งเป็นที่พำนักเก่าของเจ้าดวงเดือนและยังคงเก็บรูปรูปแบบเดิมไว้อยู่ ในแต่ละห้องที่มีทั้งหมด 50 ห้องในฟ่อนคำเป็นการตกแต่งเฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร ของบางชิ้นต้องสั่งทำพิเศษเพื่อให้เข้ากับรูปแบบห้อง ในแต่ละห้องจะมีเรื่องราวนิทานประจำห้อง ที่ผสมผสานกับเรื่องจริงที่มีอยู่ เพียงแค่เดินดูห้องในแต่ละส่วนก็เหมือนอยู่ในโลกของจินตนาการล้านนาสมัยโบราณที่ถูกผสมผสานเข้ากับ ศิลปะยุคปัจจุบันอย่างสวยงาม   ภายในห้องมีห้องอาบน้ำในตัว เครื่องปรับอากาศ มินิบาร์ และทีวีดาวเทียม

ภาพบรรยากาศที่พัก  บูติครีสอร์ท มืองเชียงใหม่ 
ฟ่อนคำวิลเลจ บูติครีสอร์ท เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย ด้วยสระว่ายน้ำวังบัวบานซึ่งถูกสร้างเลียนแบบธรรมชาติ ลิ้มรสอาหารไทยและอาหารตะวันตกเลิศรสที่พร้อมให้บริการในห้องอาหารห้วยช้าง แก้ว ยามค่ำคืนสามารถออกมานั่งทานอาหารข้างห้วยตาช้าง ดูน้ำที่ไหลผ่านหรือฟังเสียงน้ำที่ไหลลงฝาย พร้อมกลิ่นดอกไม้ป่าที่โชยมาตามลมเป็นบางครั้ง คลายความเมื่อยล้าด้วยการนวดแผนไทยที่สปา สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการประชุมไว้บริการลูกค้าองค์กร เลือกซื้อของขวัญชิ้นพิเศษกลับบ้านจากร้านขายของที่ระลึกฟ่อนคำ วิลเลจ รีสอร์ท ตั้งอยู่บนถนนหางดง-สะเมิง เพียง 10 นาทีจากสนามบินเชียงใหม่ ที่อยู่ 333 หมู่ 11 ตำบลน้ำแพร่ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
ภาพบรรยากาศที่พัก  บูติครีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่


ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง : http://เชียงใหม่.atacousticguitars.com/

ปางช้างแม่สา แหล่งเที่ยวเมืองเชียงใหม


ปางช้างแม่สา แหล่งท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่

"ปางช้างแม่สา" เป็นบ้านหลังใหญ่ที่ช้างหลาย เชือกอยู่ร่วมกันกับควาญช้างด้วยสายใยแห่งความ รักและความกลมเกลียว ถือเป็นปางช้างที่มีจำนวน ช้างมากที่สุดในภาคเหนือด้วยสภาพแวดล้อมที่อยู่ ในอ้อมกอดของป่าเขาลำเนาไพรที่อุดมสมบูรณ์ใน เขตพื้นที่หุบเขาแม่สา
นอกเหนือจากปณิธานหลักในการจัดหาสภาพ แวดล้อมที่ดีและเป็นธรรมชาติที่สุดให้กับช้างแล้ว ปางช้างแม่สายังให้ความใส่ใจกับการอนุรักษ์และ สืบพันธุ์ช้างสืบเนื่องจากจำนวนช้างที่ลดลงเรื่อยๆ  การแสดงช้างของเราจะทำให้คุณประทับใจกับ ความสามารถและพรสวรรค์ของช้างไทยที่ได้รับ การฝึกมาอย่างดี ดังนั้นจึงเชื่อว่าคุณจะต้องรักช้าง และเข้าใจวิถีแห่งการเลี้ยงช้าง ร่วมมือกันสานต่อ อุดมการณ์แห่งการอนุรักษ์และสืบสานสายพันธุ์ช้าง ต่อไป




ปางช้างแม่สา เมืองเชียงใหม่ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2519 นับเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว โดย คุณชูชาติ กัลมาพิจิตร ซึ่งเห็นคุณค่าในความฉลาดและความสามารถของ­ช้าง และต้องการอนุรักษ์ช้างไทย จึงได้ก่อตั้งปางช้างแม่สาขึ้นในพื้นที่ป่­าอุดมสมบูรณ์ที่อยู่ติดกับลำน้ำแม่สาในเขต­หุบเขาแม่สา และทำการซื้อช้างจากที่ต่างๆ มาเพื่อทำการฝึกและพัฒนาทักษะต่างๆ โดยมีความมุ่งมั่นที่จะเผยแพร่ความสามารถแ­ละความน่ารักของช้างเหล่านี้ให้แก่นักท่อง­เที่ยว และหวังว่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะเกิดค­วามรักและตระหนักในคุณค่าของช้างไทย ปางช้างแม่สา อยู่ที่บ้านแม่แมะ กิโลเมตรที่ 10 ถนนแม่ริม-สะเมิง ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไม่ไกล ปัจจุบันมีช้างจำนวนกว่า 70 เชือกที่อยู่ภายใต้การเลี้ยงดูอย่างดีจากค­วาญช้างนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวปางช้างแม­่สาจะได้รับชมการแสดงจากเหล่าช้างที่ได้รั­บการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี อาทิ การแสดงเดินพาเหรดต้อนรับ การแสดงความสามารถทางดนตรีของบรรดาช้างน้อ­ย การเต้นตามจังหวะเพลง ช้างเล่นฟุตบอล ช้างนวดควาญ ช้างทำการแหนบไม้ ชักลากไม้ซุงในรูปแบบต่างๆ และการแสดงอื่นๆ อีกมากมาย ชมฝีมือวาดภาพจากเหล่าศิลปินช้างมากความสา­มารถที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที­่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาแล้วมากมายนอ­กจากนี้ยังมีบริการนั่งช้าง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้นั่งบนหลังช้าง โดยมีควาญช้างนำทางไปสัมผัสกับธรรมชาติของ­ป่าเขาลำเนาไพรที่อุดมสมบูรณ์ของภาคเหนือ ในบรรยากาศแห่งความเพลิดเพลินและปลอดภัย ชมช้างวาดภาพ และการแสดงผลงานภาพวาดจากช้าง ชมภาพแห่งประวัติศาสตร์ที่วาดขึ้นโดยศิลปิ­นช้างจำนวน 8 เชือก เพื่อบันทึกสถิติโลกของกินเนสส์ปางช้างแม่­สามีการจัดกิจกรรมและการแสดงพิเศษในวันสำค­ัญหรือเทศกาลต่างๆ เช่น วันเด็ก, วันช้างไทย (13 มีนาคม), วันสงกรานต์ (13-15 เมษายน) เปิดให้บริการทุกวัน


การแสดงช้าง ปางช้างแม่สา ที่เที่ยวเชียงใหม่   


การแสดงช้างวันละ 3 รอบ เวลา 8.00 น. / 9.40 น. / 13.30 น.
บริการนั่งช้าง เวลา 7.00 - 14.30 น.
หอนิทรรศการศิลปะปางช้างแม่สา เวลา 8.30 - 14.30 น.


คลิปวิดิโอ แนะนำป้างช้างแม่สา



ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง : http://chiangmainice.blogspot.com/

23 เมษายน 2556

สถานที่ท่องเที่ยวในแม่แจ่ม เมืองเชียงใหม่


สถานที่ท่องเที่ยวในแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

แนำนำที่เที่ยวเชียงใหม่ ในแม่แจ่ม

1.นาข้าวขั้นบันได
หากมาในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือน ก.ย.-ต.ค. จะพบทุ่งนาเขียวขจีเต็มท้องทุ่ง โดยเฉพาะเอกลักษณ์ฺท้องทุ่งนาขั้นบันไดท่ามกลาง สายหมอก และหากมาในช่วงปลายฝนตกหนาวตั้งแต่ปลายต,ค. - กลางพ.ย.ทุ่งนาก็จะเปลี่ยนไปเป็นสีทองเหลืองอาร่ามกระทบ กับแสงสีทองอ่อนๆขอดวงอาทิตย์แล้ว ยิ่งงดงามยิ่งนัก
นาข้าวขั้นบันไดในมุมสูงที่น่าสนใจจะมี 2 จุด คือ 
จุดที่ 1 แม่ปาน ห่างจากตัวเมือง 7 ก.ม. ไปทางเส้นทางดอยอินททนนท์ เป็นจุดชมวิวนาข้าวขั้นบันไดที่สวยที่สุด การเดินทาง จากวงเวียนหน้าเทศบาลแม่แจ่มแยกไปทางโรงรียนราชประชานุเคราะห์จากนั้นตรงไปเรื่อยประมาณ  5 กิโลขึ้นไปทาง โครงการวิวอินนทนนท์  ระหว่างทางก็จะเห็นจุดชมวิวเรียกว่า จุดชมวิวแม่ปาน
จุดที่ 2 บ้านกองกาน ห่างจากตัวเมือง 7 ก.ม. อยู่เลยวัดกองกานไปตามเส้นทางขึ้นเขาประมาณ 1 กิโลเมตร
2.จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก บ้านบนนา
เป็นจุดชมวิวยามเช้าทร่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของสถานที่ที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ แม่แจ่ม การเดินทางจากหน้าอำเภอแม่แจ่ม เลี้ยวซ้ายไปทางตลาดแล้วข้ามสะพาน จากนั้นเลี้ยวขวาตรงไปประมาณ 2 กิโล มีทางแยกให้เลี้ยวซ้ายไปอีก 5 โล ก็จะถึงจุดวิวบ้านบนบนนาถนนเป็นทางราดยาง รถยนต์ทุกประเภทสามารถขึ้นได้
3.จุดชมวิว 360 องศาและวิวของเมืองแม่แจ่มยามเช้า
เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองแม่แจ่มได้รอบทิศรวมทั้งเห็นสายน้ำแม่แจ่มที่ไหลหล่อเลี้ยงชาวแม่แจ่มพากผ่านกลาง พร้อมสายหมอกบางๆ คลอเคลียไปตามไหล่เขา
4. วัดป่าแดด
ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าผา สิ่งที่น่าสนใจ คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวิหาร ที่ค่อนข้างสมบูรณ์วาดโดยช่างแต้ม ชาวไทยใหญ่ เป็นเรื่องพุทธประวัติและชาดกต่างๆ วิหารหลังนี้สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างวัด เมื่อ ประมาณปี พ.ศ. 2400
5.วัดพุทธเอ้น
ตั้งอยู่ที่ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม ตามประวัติกล่าวว่า วัดพุทธเอ้นก่อสร้างในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เมื่อ 200 กว่าปี มาแล้ว มีโบราณสถานซึ่งขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรแล้วคือ “โบสถ์น้ำ” ลักษณะคือสร้างในสระสี่เหลี่ยมโดยปักเสาลงในน้ำล้อมรอบ ด้วยกำแพงศิลาแลง บริเวณรอบโบสถ์จนถึงกำแพง เรียกว่า “อุทกสีมา” มีีความหมาย เหมือนกับ “ขันทสีมา” ของโบสถ์บนบก โบสถ์น้ำนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรแล้ว คติการบวชในโบสถ์ กลางน้ำนั้นถือว่าเป็นการบวชพระภิกษุสงฆ์ที่มี ความบริสุทธิ์มากที่สุด ได้รับอิทธิพลมาจากฝ่ายลังกา ปัจจุบันการ บวชกลางน้ำนี้ได้ยกเลิกไปหมดแล้ว บริเวณด้านหลังโบสถ์น้ำมี วิหารเก่าแก่ ซึ่งภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือ ช่างสกุลไทย ใหญ่ ปัจจุบันหลงเหลือเพียงภาพเดียว เหนือประตูทางเข้าด้านหลัง
6.วัดกองกาน
อยู่ห่างจากวัดพุทธเอ้นประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นวัดสำคัญของชาวแม่แจ่ม เนื่องจากภายในวิหารมี พระเจ้าตนหลวงซึ่งเป็น พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองแม่แจ่ม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ชาวแม่แจ่มจะไปสรงน้ององค์ พระกันทุกปีพระเจ้าตนหลวงนี้เป็น แบบล้านนาและมีขนาดใหญ่ที่สุดในอำเภอแม่แจ่ม  ตัววิหารเป็นไม้ และหลังคา มุงแป้นเกล็ดแบบโบราณ
8. หมู่บ้านทอผ้าซิ่นตีนจก
เมื่อมาท่องเที่ยวเชียงใหม่แล้ว อย่าลืมไปอุดหนุนคนไทย ฝีมือคนไทยที่หมู่บ้านทอผ้าซิ่นตีนจกอยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่แจ่มไปประมาณ 6 กิโลเมตร (ข้ามสะพานข้างที่ว่าการอำเภอแล้วเลี้ยวซ้ายตรงหมู่บ้านที่ 4-5 ต.ท่าผา ชาวบ้านที่ตำบลนี้นิยมทอผ้าซิ่นตีนจกกันมาก ซึ่งทำกันถึง150 ครอบครัว และแต่ละบ้านจะมีเครื่อง ทออยู่ใต้ถุนบ้านผลิตภัณฑ์ พื้นเมืองชนิดนี้เป็นที่นิยมอย่างสูงเพราะมีความสวยสดงดงามและลวดลายที่ออกมามี


แนะนำร้านอาหาเชียงใหม่ ร้านแจ่งเมือง แม่แจ่ม

ร้านแจ่งเมืองตรงอยู่ในโซนที่เจริญสุดของแม่แจ่ม ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่ลงจากดอยอินทนนท์และจะไปเที่ยวขุนยวมหรือแม่สะเรียงจะแวะมาเติมน้ำมันที่แม่แจ่ม ร้านนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักเดินทาง



ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง : http://chiangmainice.blogspot.com/

แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่


แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

คลิปวิดิโอ แม่แจ่ม เชียงใหม่

                    แม่แจ่ม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดเชียงใหม่อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ หลังดอยอินทนนท์ ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 150 กม. แม่แจ่ม เป็นอำเภอเล็กๆในอ้อมกอดของ หุบเขามี วัฒนธรรมที่งดงาม มีวิถีชีวิตอันเรียบง่ายในอดีตการเดินทางมาแม่แจ่มค่อนข้างลำบาก ถนนหนทางคดเคี้ยวไปตามไหล่เขาจนได้ ถูกเรียกว่าเป็นเมืองลับแลในหุบเขาเมืองแม่แจ่มมีอดีตอันยาวนานมีผู้คนอาศัยจากหลาย เชื้อชาติ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงรักษาไว้ก็คือ วัฒนธรรมและวิถีการดำเนินชีวิตของคนแม่แจ่มที่ยังคงเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยนัยยะตาม หลักพุทธธรรมคำสอน นอกจากความงดงามชอง วิถีชีวิตแล้ว แม่แจ่มยังเป็นเมืองสงบและนิ่งไร้การปรุงแต่งมี ธรรมชาติที่ อุดมสมบูรณ์รวมทั้งวิถีชีวิตที่เรียบง่าย อีกทั้งวัดวาอารามเก่าแก่อันทรงคุณค่าและ สายน้ำ แม่แจ่มที่หล่อเลี้ยงผู้คน เมืองแม่แจ่ม ในวันนี้อาจไม่ใช่เมืองปิดอีกต่อไป มีการเปลี่ยน แปลงไปตาม ยุคโลกา ภิวัฒน์ แต่ยังคงรักษาความเป็นเสน่ห์ของ คนแม่แจ่ม ที่มีรอยยิ้มอันงดงาม อบอุ่นด้วยน้ำใจ ไม่มีการ แข่งขัน มีแต่ ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ภาพเช่นนี้อาจหาชมได้ไม่ง่ายนัก ในสังคมเมืองขนาดใหญ่ทว่ากลับพบ เห็นได้อย่าง ง่ายดายในยามที่คุณเดินทางมาเยือน

แม่แจ่ม
นาขั้นบันได แม่แจ่ม  ท่องเที่ยวเชียงใหม่

แม่แจ่ม หลายคนที่อยากจะสัมผัสกลิ่น ไอของความเป็นธรรมชาติและความเรียบง่ายของผู้คน อยากแนะนำให้ลองมาเยือน เมืองแม่แจ่มสักครั้งแล้ว จะรู้ว่า แท้จริงในความเรียบง่าย ของผู้คนก็มีความงดงามแฝงเอาไว้และ นอกจากความเรียบง่าย ของคนเมืองแม่แจ่มแล้ว สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์แห่งความงดงามอีกอย่างหนึ่ง คือ ท้องทุ่งนาขั้นบันไดอันเขียวขจีในฤดูฝน หากใครที่ยังไม่เคยเดินทางมาแม่แจ่มก็ควรจะหาเวลาดินทาง เข้ามา ศึกษาวัฒนธรรมประเพณีและการดำเนินชีวิตของชาวแม่แจ่ม ให้ได้สักครั้ง
 จุดชมวิว แม่แจ่ม สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่


- มนต์เมืองแจ่ม โทร.089-8524797
- โรงแรมแม่แจ่ม ราคา 400-800 บาท  โทร 081 882 8521 ,053 828 025 คุณหนุ่ย
- เฮือนแรมแจ่มเมือง คุณเพ็ญแข-ศุภชัย ขัติยสุรินทร์ โทร.053-828397 โทรสาร 053-485058 มือถือ 081 387 3638 , 081 99 23242
- สวนป่าแม่แจ่ม โทร. 053 228 068
- นวสรวงรีสอร์ท โทร 053 828 477 ,053 828 228 จำนวน 14 ห้อง ราคา 400-500 บาท
- โรงแรมแพมวิว ห้องละ 200-350 เบอร์โทร 081 883 8794 , 053 485218
- พงศรา รีสอร์ท 053-828219
- องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ โทร.(053)249349 ราคาห้องละ 400 บาท/คืน (มี 2 เตียง), ราคาห้องละ 800 บาท/คืน(มี 5 เตียง)
- ชุมชนสมเด็จย่า จะมีบ้านพักคล้ายๆกระท่อม 4 หลัง ราคาหลังเล็ก หลังละ 300 บาท หลังใหญ่หลังละ 500 บาท นอกจากนี้ยังมีเต้นท์ 20 หลัง หลังเล็ก ราคา 100 บาท หลังใหญ่ ราคา 400 บาท ติดต่อที่ 053 485222 ,
081 740 0147 , 089 948 6301
- บ้านพัก ออย.13 โทร.(053)249349 ราคาหลังละ 400 บาท/คืน


ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง : http://chiangmainice.blogspot.com/

22 เมษายน 2556

วัดพระธาตุดอยคำ จังหวัดเชียงใหม่


วัดพระธาตุดอยคำ จังหวัดเชียงใหม่


คลิปวิดิโอ วัดพระธาตุดอยคำ เชียงใหม่

ใครหลายต่อหลายคน เมื่อได้มาเที่ยวเชียงใหม่ คงมีโปรแกรมการเที่ยวสวนราชพฤกษ์ หรือเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศในนามมหกรรมพืชสวนโลกเมื่อปี พ.ศ. 2549  นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาชม หากแหงนหน้ามองบริเวณฉากหลังของ“หอคำหลวง”จะมองเห็นพระพุทธรูปองค์สีขาว สุกสกาว ขนาดมหึมา ตั้งเด่นตระหง่านอยู่บนยอดดอยที่มีความเขียวขจีของต้นไม้น้อยใหญ่
แต่ว่าน้อยคนนักที่จะทราบว่า ดอยที่เขียวขจีลูกนี้ เป็นที่ตั้งของ “วัดพระธาตุดอยคำ” วัดที่มีประวัติอันเก่าแก่ คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ มานานกว่า 1,300  ปี และที่สำคัญภายในวัดมีลานชมวิว ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของสวนราชพฤกษ์ ทั้งกลางวันและกลางคืนได้อย่างชัดเจน
วัดพระธาตุดอยคำ  ตามประวัติ เมื่อ พ.ศ. 2509 กล่าวไว้ว่า ขณะนั้นวัดดอยคำเป็นวัดร้าง ต่อมากรุแตกชาวบ้านพบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระรอดหลวง พระหินทรายปิดทององค์ใหญ่ พระสามหมอ (เนื้อดิน) ซึ่งนำมาประดิษฐานไว้ ณ วัดพระธาตุดอยคำ พระธาตุดอยคำนอกจากจะเป็นที่สักการะบูชาของคนท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของการบินไทยที่ใช้กำหนดพื้นที่ทางสายตา ก่อนที่จะนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่อีกด้วย
 วัดพระธาตุดอยคำ เป็นวัดที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ต.แม่เหี๊ยะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และใกล้เคียงมาตั้งแต่โบราณ และเป็นอีกวัดหนึ่งในเชียงใหม่ ที่มีความน่าสนใจในด้านการท่องเที่ยว การศึกษาศิลปะและวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาวล้านนาโบราณ  ต้นเหตุแห่งการสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ สืบเนื่องมาจาก เจ้าแม่อินหวัน ณ เชียงใหม่ ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ที่ได้ล่วงลับไปแล้ว หลังจากนั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์  เจ้ากุลวงศ์ ทายาทคนหนึ่งของท่านฝันว่า เจ้าแม่ขอให้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานไว้บนที่สูง เพื่อให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชาจากระยะไกลได้

ภาพประกอบ วัดพระธาตุดอยคำจังหวัดเชียงใหม่

ติดตามเรื่องราวจังหวัดเชียงใหม่ได้ที่: http://travel.sanook.com/city/chiangmai/
เรียบเรียง :  http://chiangmailanla.wordpress.com/